Saturday , 6 December 2025
Home สาระเพื่อสุขภาพดี ชาเขียวมัทฉะ มีดีอะไร ทำไมช่วงนี้กระแสแรงจัง
สาระเพื่อสุขภาพดี

ชาเขียวมัทฉะ มีดีอะไร ทำไมช่วงนี้กระแสแรงจัง

มัทฉะ เครื่องดื่มสุดฮิต สำหรับคนรักสุขภาพ

ช่วงนี้กระแสการดื่มชามัทฉะกำลังมาแรงอย่างมาก โดยเฉพาะเมนู “เพียวมัทฉะ” ที่ชงผงมัทฉะกับน้ำเปล่าโดยไม่ผสมนมหรือน้ำตาล ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย สาเหตุหนึ่งมาจากการที่อินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพและความงามทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้แชร์ประสบการณ์และประโยชน์ของการดื่มมัทฉะผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้คนหันมาสนใจและลองดื่มตาม

นอกจากนี้ มัทฉะยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น EGCG ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เสริมการเผาผลาญพลังงาน และช่วยในการลดน้ำหนัก อีกทั้งมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่ากาแฟ จึงไม่ทำให้ใจสั่น แต่ยังช่วยให้ร่างกายตื่นตัว

ประโยชน์ของมัทฉะ 🍵✨

มัทฉะเป็นชาบดละเอียด จากชาคุณภาพดี ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เนื่องจากเป็นชาเขียวที่ผ่านกระบวนการบดละเอียด การดื่มมัทฉะ ก็เปรียบเสมือนเรากินใบชาทั้งใบ ไม่ใช่แค่เพียงเอาชามาต้มกินเฉพาะน้ำเท่านั้น

🌿 1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)

  • มี คาเทชิน (Catechins) โดยเฉพาะ EGCG (Epigallocatechin gallate) สูงกว่าชาเขียวทั่วไปถึง 137 เท่า
  • EGCG ช่วย ลดการอักเสบ, ต่อต้านเซลล์มะเร็ง และชะลอวัย
  • ป้องกันความเสียหายของเซลล์จากอนุมูลอิสระ

💪 2. ช่วยเพิ่มการเผาผลาญและลดน้ำหนัก

  • ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันและเพิ่มพลังงานในการออกกำลังกาย
  • EGCG ช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสะสมไขมัน

🧠 3. เพิ่มสมาธิและความผ่อนคลาย

  • มี L-Theanine กรดอะมิโนที่ช่วย กระตุ้นการทำงานของสมอง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายแต่ไม่ง่วง
  • ช่วยเพิ่มระดับ โดพามีน (Dopamine) และเซโรโทนิน (Serotonin) ทำให้อารมณ์ดีขึ้น

⚡ 4. ให้พลังงานนานขึ้นโดยไม่ทำให้ใจสั่น

  • มีคาเฟอีนในระดับพอเหมาะ (ประมาณ 35-70 มก. ต่อแก้ว)
  • ไม่ทำให้เกิดอาการใจสั่นเหมือนกาแฟ เพราะ L-Theanine ช่วยชะลอการดูดซึมคาเฟอีน

🛡️ 5. เสริมภูมิคุ้มกันและช่วยล้างสารพิษ

  • คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ในมัทฉะสูงมาก ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
  • มี วิตามิน C, วิตามิน A และสารอาหารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

💖 6. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

  • EGCG และคาเทชินช่วยลดระดับ LDL (ไขมันไม่ดี) และเพิ่ม HDL (ไขมันดี)
  • ลดการเกิดลิ่มเลือดและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

มัทฉะกับชาเขียวเหมือน หรือต่างกันอย่างไร?

มัทฉะกับชาเขียวเป็นชาที่มาจากต้นเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันในหลายด้าน เช่น วิธีการปลูก วิธีการแปรรูป และคุณสมบัติของชา ซึ่งส่งผลต่อรสชาติ สี และคุณค่าทางโภชนาการ โดยสามารถเปรียบเทียบได้ดังนี้:

1. วิธีการปลูก

  • มัทฉะ ☕🍃
    • ปลูกในที่ร่มประมาณ 3-4 สัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อกระตุ้นให้ต้นชาผลิต คลอโรฟิลล์สูงขึ้น ทำให้ใบชามีสีเขียวสดและอุดมไปด้วยกรดอะมิโน (โดยเฉพาะ L-Theanine ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย)
  • ชาเขียวทั่วไป 🍵🍃
    • ปลูกกลางแจ้งโดยไม่มีการควบคุมแสงแดด ทำให้ปริมาณ คลอโรฟิลล์และกรดอะมิโนน้อยกว่า มัทฉะ ส่งผลให้รสชาติของชามีความฝาดมากกว่า

2. วิธีการแปรรูป

  • มัทฉะ
    • ใบชาที่เก็บเกี่ยวจะถูกนำไป นึ่งเพื่อหยุดกระบวนการออกซิเดชัน จากนั้นนำไปอบแห้ง และบดให้เป็น ผงละเอียด ด้วย หินบดแบบดั้งเดิม ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ละเอียดเหมือนแป้ง
  • ชาเขียวทั่วไป
    • ใบชาจะถูกนำไป ตากแห้ง บด หรือม้วนเป็นเส้น เพื่อทำเป็นใบชาแบบดั้งเดิม ซึ่งต้องนำไปชงก่อนดื่ม

3. วิธีการชง

  • มัทฉะ 🥄

    • ใช้เป็น ผงชา ผสมกับน้ำร้อนโดยตรง (ดื่มทั้งใบชา ไม่ต้องกรองออก) ทำให้ได้ สารอาหารมากกว่า ชาเขียวทั่วไป
  • ชาเขียวทั่วไป 🍵

    • ใช้วิธี ชงใบชา ในน้ำร้อนและกรองเอาเฉพาะน้ำชา ทำให้บางส่วนของสารอาหารสูญเสียไปในกากใบชา

4. รสชาติ

  • มัทฉะ
    • มีรสชาติ เข้มข้นและหวานนุ่มลึก เพราะมีกรดอะมิโนสูง โดยเฉพาะ L-Theanine ที่ช่วยลดความขม
  • ชาเขียวทั่วไป
    • รสชาติ เบากว่า มีความฝาดและขมมากกว่า เนื่องจากปริมาณแทนนินสูงขึ้น

5. คุณค่าทางโภชนาการ

  • มัทฉะมีสารอาหารสูงกว่า
    • เพราะดื่มเข้าไปทั้งใบ ทำให้ได้รับ สารต้านอนุมูลอิสระ (EGCG), กรดอะมิโน และวิตามิน มากกว่าการชงใบชา
  • ชาเขียวทั่วไป
    • ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง แต่ไม่มากเท่ามัทฉะ เพราะไม่ได้บริโภคทั้งใบ

6. ปริมาณคาเฟอีน

  • มัทฉะ มีคาเฟอีนสูงกว่าชาเขียวทั่วไปเพราะใช้ทั้งใบชา
  • ชาเขียวทั่วไป มีคาเฟอีนต่ำกว่า เนื่องจากชงแค่ในน้ำและกรองใบออก

 

สรุปแบบเข้าใจง่าย

ปัจจัย มัทฉะ 🍵 ชาเขียวทั่วไป 🍃
วิธีการปลูก ปลูกในที่ร่ม ปลูกกลางแดด
วิธีแปรรูป บดเป็นผง อบและม้วนเป็นใบ
วิธีการชง คนกับน้ำแล้วดื่มทั้งผง ชงใบแล้วกรองดื่ม
รสชาติ หวานนุ่มลึก ฝาด ขมเล็กน้อย
คาเฟอีน สูงกว่า ต่ำกว่า
สารต้านอนุมูลอิสระ สูงกว่า ต่ำกว่า

🔹 ถ้าต้องการคุณค่าทางโภชนาการสูงและรสชาติเข้มข้น → เลือกมัทฉะ
🔹 ถ้าชอบรสเบาๆ ดื่มง่าย → เลือกชาเขียวทั่วไป

วิธีดื่มมัทฉะให้ได้รสชาติและประโยชน์สูงสุด 🍵

มัทฉะสามารถดื่มได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น มัทฉะร้อน, มัทฉะเย็น, มัทฉะลาเต้ หรือมัทฉะสมูทตี้ แต่การดื่มแบบ เพียวมัทฉะ (Usucha หรือ Koicha) ถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับสารอาหารมากที่สุด

1. วิธีดื่มมัทฉะแบบดั้งเดิม (เพียวมัทฉะ – Usucha & Koicha)

👉 สิ่งที่ต้องเตรียม:

  • ผงมัทฉะเกรดพิธีกรรม (Ceremonial Grade) 1-2 กรัม (ประมาณ 1/2 – 1 ช้อนชา)
  • น้ำร้อนอุณหภูมิ ประมาณ 70-80°C
  • ที่ตีชา (Chasen) หรือเครื่องตีฟองนม

🌱 วิธีชงแบบ Usucha (มัทฉะบาง)

  1. ร่อนผงมัทฉะลงในถ้วยชา (เพื่อป้องกันผงจับตัวเป็นก้อน)
  2. เติมน้ำร้อน ประมาณ 60-80 มล.
  3. ใช้ที่ตีชา ตีเป็นรูปตัว “W” หรือ “M” จนเกิดฟองละเอียด
  4. ดื่มทันทีเพื่อให้ได้รสชาติและคุณค่าสารอาหารที่ดีที่สุด

🌿 วิธีชงแบบ Koicha (มัทฉะเข้มข้น)

  1. ใช้ผงมัทฉะ 2-4 กรัม (1-2 ช้อนชา)
  2. เติมน้ำร้อน ประมาณ 30-40 มล.
  3. คนให้เข้ากันโดยไม่ต้องตีให้เกิดฟอง
  4. ได้รสชาติที่เข้มข้นและข้นคล้ายครีม

Koicha เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสเข้มข้น และนิยมดื่มในพิธีชงชาแบบดั้งเดิม

2. มัทฉะลาเต้ (Matcha Latte)

📌 วัตถุดิบ

  • ผงมัทฉะ 1-2 กรัม
  • น้ำร้อน 30 มล.
  • นมสด / นมพืช 150-200 มล.
  • น้ำผึ้ง / น้ำเชื่อม / หญ้าหวาน (ตามชอบ)

📝 วิธีทำ
1️⃣ ตีมัทฉะกับน้ำร้อนให้เข้ากัน (ตามขั้นตอนแบบดั้งเดิม)
2️⃣ อุ่นนมหรือใช้ที่ตีฟองนมเพื่อให้เนียนฟู
3️⃣ เทนมใส่ลงไป แล้วเติมมัทฉะที่เตรียมไว้
4️⃣ คนให้เข้ากัน หรือทำเป็น มัทฉะลาเต้แบบแยกชั้น โดยเทมัทฉะลงบนนมเบา ๆ

📌 เคล็ดลับ

  • ใช้ นมอัลมอนด์, นมข้าวโอ๊ต หรือนมถั่วเหลือง แทนนมวัวได้
  • ถ้าชอบดื่มเย็น ให้เติมน้ำแข็งลงไป

3. มัทฉะเลมอนโซดา (Matcha Lemon Sparkling)

📌 วัตถุดิบ

  • ผงมัทฉะ 1-2 กรัม
  • น้ำร้อน 30 มล.
  • น้ำมะนาว 15 มล.
  • น้ำผึ้ง / น้ำเชื่อม 10 มล.
  • โซดาเย็น 150-200 มล.
  • น้ำแข็ง

📝 วิธีทำ
1️⃣ ชงมัทฉะกับน้ำร้อนแล้วคนให้เข้ากัน
2️⃣ ผสมน้ำมะนาวกับน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง
3️⃣ ใส่น้ำแข็งในแก้ว เทมัทฉะลงไป แล้วเติมโซดา
4️⃣ คนเบา ๆ แล้วดื่มสดชื่นทันที!

📌 เหมาะสำหรับ

  • คนที่ต้องการเครื่องดื่มสดชื่น ดื่มแทนชาเย็นหรือน้ำอัดลม

4. มัทฉะสมูทตี้ (Matcha Smoothie)

📌 วัตถุดิบ

  • ผงมัทฉะ 1-2 กรัม
  • กล้วยหอม 1 ลูก
  • นมสด / นมพืช 150 มล.
  • โยเกิร์ต ½ ถ้วย
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา (ตามชอบ)
  • น้ำแข็ง ½ ถ้วย

📝 วิธีทำ
1️⃣ นำทุกอย่างใส่เครื่องปั่น
2️⃣ ปั่นจนเนียนละเอียด
3️⃣ เทใส่แก้วแล้วดื่มทันที

📌 เคล็ดลับ

  • สามารถเติม อัลมอนด์, เมล็ดเจีย หรือข้าวโอ๊ต เพื่อเพิ่มสารอาหาร
  • ใช้ นมอัลมอนด์หรือนมมะพร้าว เพื่อให้ได้รสชาติหอมมัน

Leave a comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Articles

7 อาหารเสริมลดน้ำหนัก ที่คนไทยซื้อซ้ำมากที่สุด (อัปเดต 2025)

ปี 2025 ถือเป็นยุคที่คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพและรูปร่างมากที่สุดยุคหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่นที่ต้องเผชิญกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่—อาหารจานด่วน, การนั่งทำงานนานหลายชั่วโมง, นอนดึก และความเครียดจากงาน—ทั้งหมดนี้ทำให้น้ำหนักขึ้นง่าย แต่ลดได้ยากกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ “อาหารเสริมลดน้ำหนัก” จึงกลายเป็นหมวดสินค้าที่เติบโตที่สุดในตลาดสุขภาพออนไลน์ โดยเฉพาะบน...

วิตามินและแร่ธาตุสำคัญที่วัยทำงานต้องไม่ขาด พร้อมแหล่งอาหาร

คนวัยทำงานส่วนใหญ่มักจะวุ่นวายไปกับงาน นัดหมาย เดดไลน์ จนลืมดูแลตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการกินอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ หลายคนกินแต่อาหารที่อิ่มท้อง แต่ขาดวิตามินและแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการ ผลที่ตามมาคือ เหนื่อยง่าย ป่วยบ่อย ผิวพรรณไม่สดใส นอนไม่หลับ...

10 อาหารบำรุงสมองสำหรับคนทำงาน ลดความเครียด เพิ่มสมาธิ

รู้สึกสมองล้า ความจำไม่ดี หรือเครียดง่ายไหม? ลองเริ่มที่จานอาหารกันดีกว่า! ใครที่ทำงานหนัก ต้องใช้สมองเยอะ หรือเริ่มรู้สึกว่าความจำไม่เหมือนเดิม อาจจะถึงเวลาดูแลสมองของเราให้มากขึ้นแล้วล่ะ นอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว การเลือกทานอาหารที่เหมาะสมก็สำคัญมากเช่นกัน สมองเป็นอวัยวะที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย คิดเป็นราว...

ประโยชน์ของแอสต้าแซนทีน สรรพคุณ วิธีทานแอสต้าแซนทีน ให้ได้ผล

ผลการทดลองที่ชัดที่สุด สำหรับแอสต้าแซนทีน คือ การช่วยลดริ้วรอย ลดการอักเสบ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่แรงสุด มากกว่าวิตามินอื่นๆเป็นพันเท่า