Saturday , 6 December 2025
Home สาระเพื่อสุขภาพดี ขาดวิตามินดี มีผลอย่างไร
สาระเพื่อสุขภาพดี

ขาดวิตามินดี มีผลอย่างไร

ช่วงนี้หลายคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น อาจจะได้ลองตรวจเลือดเพื่อหาระดับของวิตามินดี กันมาบ้าง และส่วนใหญ่คนไทยซึ่งเป็นเมืองแดด กลับขาดวิตามินดีเป็นส่วนมาก ก็เลยหันมาหาวิตามินดี3 มาทาน เพื่อชดเชย

การขาดวิตามินดี อาจมีผลกระทบต่อร่างกายในหลายด้าน เนื่องจากวิตามินดี มีบทบาทสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกระดูกและระบบภูมิคุ้มกัน ใครที่มีอาการภูมิแพ้ ผื่นแพ้ผิวหนังต่างๆ อาจจะเกิดจากการขาดวิตามินดีก็ได้ แนะนำให้ลองไปตรวจวิตามินดีตามโรงพยาบาล หรือตามคลีนิคที่มีแล็บตรวจก็ได้ ถ้าขาดวิตามินดีจริง แล้วเราทานเสริมก็จะทำให้ร่างกายเราดีขึ้น

อาการที่อาจเกิดขึ้นได้ หากขาดวิตามินดี ได้แก่:

1. อาการทางกระดูกและกล้ามเนื้อ

  • กระดูกเปราะบาง แตกหักง่าย
  • ปวดกระดูก หรือกระดูกอ่อนแอ (โดยเฉพาะในเด็ก อาจเกิดโรคกระดูกอ่อน หรือ Rickets)
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือปวดเมื่อย

2. ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง

  • ติดเชื้อบ่อย โดยเฉพาะทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดหรือโรคปอด

3. ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ

  • อ่อนเพลียเรื้อรัง
  • ซึมเศร้า หรืออารมณ์ไม่มั่นคง (วิตามิน D มีบทบาทในสมอง)

4. ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง

  • อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 และโรคความดันโลหิตสูง

5. ในเด็ก

  • เจริญเติบโตช้า
  • โครงสร้างกระดูกผิดปกติ เช่น ขาโก่ง

6. ในผู้สูงอายุ

  • เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
  • เสี่ยงต่อการล้มและกระดูกหัก

วิธีป้องกันและแก้ไข

  • รับแสงแดดวันละ 10-30 นาที (ขึ้นอยู่กับสีผิวและช่วงเวลา)
  • รับประทานอาหารที่มีวิตามินดี สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ไข่แดง และนมเสริมวิตามินดี
  • พิจารณาเสริมวิตามินดี 3 แต่ต้องตรวจให้ทราบผลก่อนว่าขาดจริงๆ หรือขอคำแนะนำจากคุณหมอก็ได้

ลดความเสี่ยงจากการสะสมแคลเซียมส่วนเกิน ด้วยวิตามิน D3 และ K2

หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า การได้รับแคลเซียมมากเกินไปนั้น อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ ได้ วิธีแก้ปัญหานี้คือ การรับประทานวิตามิน D3 และ K2 ควบคู่กัน เพราะวิตามินเหล่านี้จะช่วยลดการสะสมของแคลเซียมส่วนเกิน และรักษาระดับแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับสุขภาพกระดูกที่แข็งแรง

การได้รับวิตามิน D3 และ K2 ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายอยู่ในภาวะปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆ ในอนาคต ลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาจากการสะสมของแคลเซียมส่วนเกิน ดังนั้น การเสริมวิตามิน D3 และ K2 จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการดูแลสุขภาพในระยะยาว

Leave a comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Articles

7 อาหารเสริมลดน้ำหนัก ที่คนไทยซื้อซ้ำมากที่สุด (อัปเดต 2025)

ปี 2025 ถือเป็นยุคที่คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพและรูปร่างมากที่สุดยุคหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่นที่ต้องเผชิญกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่—อาหารจานด่วน, การนั่งทำงานนานหลายชั่วโมง, นอนดึก และความเครียดจากงาน—ทั้งหมดนี้ทำให้น้ำหนักขึ้นง่าย แต่ลดได้ยากกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ “อาหารเสริมลดน้ำหนัก” จึงกลายเป็นหมวดสินค้าที่เติบโตที่สุดในตลาดสุขภาพออนไลน์ โดยเฉพาะบน...

วิตามินและแร่ธาตุสำคัญที่วัยทำงานต้องไม่ขาด พร้อมแหล่งอาหาร

คนวัยทำงานส่วนใหญ่มักจะวุ่นวายไปกับงาน นัดหมาย เดดไลน์ จนลืมดูแลตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการกินอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ หลายคนกินแต่อาหารที่อิ่มท้อง แต่ขาดวิตามินและแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการ ผลที่ตามมาคือ เหนื่อยง่าย ป่วยบ่อย ผิวพรรณไม่สดใส นอนไม่หลับ...

10 อาหารบำรุงสมองสำหรับคนทำงาน ลดความเครียด เพิ่มสมาธิ

รู้สึกสมองล้า ความจำไม่ดี หรือเครียดง่ายไหม? ลองเริ่มที่จานอาหารกันดีกว่า! ใครที่ทำงานหนัก ต้องใช้สมองเยอะ หรือเริ่มรู้สึกว่าความจำไม่เหมือนเดิม อาจจะถึงเวลาดูแลสมองของเราให้มากขึ้นแล้วล่ะ นอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว การเลือกทานอาหารที่เหมาะสมก็สำคัญมากเช่นกัน สมองเป็นอวัยวะที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย คิดเป็นราว...

ประโยชน์ของแอสต้าแซนทีน สรรพคุณ วิธีทานแอสต้าแซนทีน ให้ได้ผล

ผลการทดลองที่ชัดที่สุด สำหรับแอสต้าแซนทีน คือ การช่วยลดริ้วรอย ลดการอักเสบ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่แรงสุด มากกว่าวิตามินอื่นๆเป็นพันเท่า